วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์วรรณกรรมพื้นบ้าน เรื่องนางผมหอม


วิเคราะห์วรรณกรรมพื้นบ้าน  เรื่องนางผมหอม



เรื่องย่อ  วรรณกรรมเรื่องนางผมหอม
              ในอดีตาล  มีเมือง ๆ หนึ่งชื่อ  นครศรี  เจ้าเมืองนครศรี  มีลูสาวสวยคนหนึ่งชื่อว่า  สีดา  เมื่อเจริญวัยได้อายุ  16  ปี  ิดความระวนระวายใจคิดอยาไปเดินป่าเพื่อเ็บดอไม้ให้สบายอารมณ์  อยู่มาวันหนึ่งจึงได้ชวนพวสาวสนมบริวารออจาเมืองเพื่อไปเ็บดอไม้  ด้วยอารมณ์เพลิดเพลินไปับดอไม้นานาพันธุ์  นางสีดาได้พลัดหลงพวสาวใช้  ทำให้นางหลงป่าไปตามลำพัง  เดินทางคนเดียวไปได้หลายวัน  นางได้พบน้ำในรอยเท้าช้างด้วยความอิดโรยหิวระหาย  จึงได้ดื่มน้ำในรอยเท้าช้างนั้นแล้วเดินทางต่อไป 
ได้หลายวันจึงลับถึงเมืองของตน  ต่อมานางได้ตั้งครรภ์เพราะดื่มน้ำในรอยเท้าช้างนั้น  เมื่อครบกำหนดสิบเดือนได้คลอดบุตรออกมาสองคนเป็นหญิงทั้งคู่  ตั้งชื่อให้ว่า  นางผมหอม  และ  นางลุน  เมื่อทั้งสองเจริญวัยขึ้นมาจึงถามหาบิดา  มารดาบอกว่าบิดาเจ้าทั้งสองไม่มี  อยู่มาวันหนึ่งนางผมหอมและนางลุน  ไปอาบน้ำร่วมกับเด็กชาวบ้านถูเด็ชาวบ้านด่าหาว่าเป็นลูผีสางสัตว์ป่า  ทั้งสองนึเสียใจสงสัยจึงลับบ้านถามมารดาว่าจริงไหมที่เด็ชาวบ้านพวนั้นพูด  นางสีดาผู้มารดาจึงตอบว่า จริง  และนาง็เล่าเรื่องแต่ครั้งนางหลงป่าแล้วได้ดื่มน้ำในรอยเท้าช้างให้ลูสาวทั้งสองฟัง  และห้ามลูทั้งสองไม่ให้ไปยุ่งับเด็ชาวบ้านอี  ครั้นนางผมหอมและนางลุนเติบโตอายุได้ 13 ขวบ  ็คิดอยาจะเห็นหน้าผู้เป็นบิดา  ทั้งสองจึงได้ลามารดาเพื่อจะไปติดตามหาบิดา  ครั้งแรกมารดาได้ห้ามไว้แต่ในที่สุดทนความรบเร้าไม่ไหวจึงอนุญาต  แต่ก่อนไปนางได้บอกลูกว่า  ช้างสารนั้นเป็นช้างมีฤทธิ์เดชมา  เป็นช้างผีสิงเที่ยวหาคนินอยู่เป็นนิจ  หาใครไปพบเข้าถ้าไม่ใช่ผู้มีบุญหรือเชื้อสายแล้วช้างนั้นจะฆ่าทันที  ถ้าเป็นผู้มีบุญหรือเป็นเชื้อสายจึงจะไต่ถาม  งาของมันขึ้นไปนั่งบนหลังได้  และนางสีดาผู้เป็นมารดาตระหนัดีว่านางลุนผู้น้องนั้นเป็นลูคนไม่ใช่ลูช้างสารเชือนั้นเหมือนอย่างนางผมหอม  จะต้องถูช้างสารฆ่าแน่นอนแต่ก็จำต้องปล่อยให้ไปด้วยกัน  หลังจานางสีดาผู้เป็นมารดาได้อนุญาตแล้วทั้งสองจึงได้เดินป่าเพื่อตามหาบิดา  หลังจากได้เดินทางรอนแรมไปได้หลายวันคืนจึงได้พบช้างสารผู้เป็นบิดา  ช้างจึงให้ทั้งสองไต่ตามงาขึ้นไปบนหลัง  นางผมหอมผู้เป็นพี่สาวขึ้นไปนั่งบนหลังได้ส่วนนางลุน ผู้เป็นน้องขึ้นไม่ได้  พยายามแล้วพยายามเล่าก็ไม่สานมารถจะขึ้นไปได้ที่สุดก็ถูกช้างฆ่ากิน 
นางผมหอมผู้พี่สาวเสียใจมา
แต่็ทำอะไร็ไม่ได้จำใจต้องไปับช้างผู้เป็นบิดา  ช้างนั้นจึงสั่งให้พวช้างที่เป็นบริวารหาไม้มาปลูปราสาทเสาสูงให้นางผมหอมอยู่ 

 และช้างผู้เป็นบิดาก็หาข้าวปลาอาหารเลี้ยงลูกสาวของตนไม่ขาด  ับทั้งไปแสวงหาเครื่องใช้ของประดับอันเป็นของมนุษย์จำเป็นต้องใช้ประจำวันมาให้  โดยไปลักขโมยชาวบ้านมาให้ลูกสาว จนระทั่งนางผมหอมมีเครื่องใช้ของสอยเหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไป  วันหนึ่งช้างไปหาินและแสวงหาอาหารมาให้ลูสาวตามปติ  บังเอิญไปพบหญิงสาวสองคนซึ่งหลงป่ามาจึงจับมาให้เป็นคนใช้ของนางผมหอม 
เมื่อ นางผมหอมอายุได้ 16 ปี  คิดอยาจะมีคู่ครอง      จึงได้เอาผมใส่ผอบทองลอยไปตามน้ำโดยตั้งสัตยาธิษฐานว่าหาคู่ครองอยู่ทางทิศไหนบ้านใดเมืองใด  ็ขอให้ลอยไปทางนั้นให้ไปติดค้างอยู่ตรงนั้น  จนว่าผู้ชายในฝันนั้นจะมาพบและตามมาหานางที่ปราสาทเสาสูงนี้นางจึงปล่อยให้ลอยน้ำไป  จนระทั้งไปถึงเมือง ๆ หนึ่ง  ผอบทองใส่ผมหอมนางนั้นจึงไปติดค้างอยู่ที่ท่าน้ำ  วันหนึ่งพวเสนาอำมาตย์ไปอาบน้ำได้พบ  เขาได้ว่ายน้ำไปหวังจะเอามาถวายเจ้าชาย  ทั้ง ๆที่ไม่ทราบว่าภายในนั้นเป็นอะไร  แต่เอาไม่ได้จึงไปทูลเจ้าชายให้ทรงทราบ  เจ้าชายรีบเสด็จไปท่าน้ำนั้นทันทีและว่ายน้ำไปเอาผอบโดยง่าย  เปิดดูจึงรู้ว่าเป็นเส้นผมหอม  มีลิ่นหอมและมีข่าวสาส์นอยู่ภายใน  เมื่อทราบดังนั้นเจ้าชายจึงทูลลาบิดามารดาเดินทางไปหานางผมหอมตามข่าวสาส์นนั้น  เจ้าชายเดินทางรอนแรมไปหลายวันจึงถึงปราสาทเสาเดียวของนางผมหอม  ได้พูดจาเป็นที่เข้าใจันและได้ตลงปลงใจเป็นคู่สามีภรรยาันเป็นที่เรียบร้อยและมีบุตรด้วยัน 2 คน  อยู่มาวันหนึ่งคบคิดันจะหาทางหลบหนี  ครั้นสบโอาสจึงส่งให้สาวใช้ทั้งสองหลบหนีไป่อนโยให้มุ่งหน้าลับบ้านเมืองของนางทั้งสอง  ส่วนเจ้าชายและนางผมหอมับลู 2 คนได้หลบหนีมุ่งหน้าไปยังเมืองของเจ้าชาย 
 
ครั้นช้างใหญ่ลับจาแสวงหาอาหารเพื่อลูมาถึง  ไม่เห็นลูสาวมารับนึเอะใจ  จึงเรียหาลูสาวแต่ไม่มีเสียงขานรับ  จึงได้พังปราสาทลง็ไม่พบลูสาว ดังที่คาดไว้  จึงออติดตามจนระทั่งไปพบเจ้าชายและนางผมหอมอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง  อ้อนวอนให้ลงมาและขอให้ลับไปอยู่ที่เดิม  จะอยู่เป็นคู่ภรรยาสามี็ไม่ว่า  แต่ทั้งสองลัวจะถูทำอันตรายจึงไม่ลงมาหาบิดา  และขอให้บิดาลับไปเสีย  ด้วยความรัความเป็นห่วงลูมาช้างจึงขาดใจตาย  แต่่อนจะตายได้สั่งไว้ว่าให้ลงมาถอดเอางาทั้งสองข้างซึ่งจะใช้เป็นเครื่องเดินทางในภายหน้าคือ งาช้างขวาใช้ทำลายข้าศึ  งาข้างซ้ายใช้เป็นเรือได้  เมื่อสั่งลูแล้วก็สิ้นใจตาย  เจ้าชายและนางผมหอม  จึงถอดเอางาทั้งสองและได้เผาซากช้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเดินทางต่อไป  จนกระทั่งไปถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง  จึงเอางาช้างซ้ายเป็นเรือพายไปตามน้ำ  ระหว่างทางมีนางผีจำแรงเพศเป็นนางผมหอมและได้ผลันางผมหอมตน้ำ  แล้วตัวเองก็นั่งแทนที่  เจ้าชายเข้าใจว่าเป็นนางผมหอม็ไม่นึเฉลียวใจ  จนกระทั่งถึงเมืองของตน  อยู่มาวันหนึ่งลูกชายชื่อสีลาบอกความจริงให้  จึงได้รู้ว่าเป็นผี  จึงให้อำมาตย์ฆ่าเสีย  แล้วรับนางผมหอมลับเข้าเมืองและทั้งสอง็ปครองประชาราษฎร์  ได้รับความสุขตลอดมาจนระทั้งอายุขัย




1 ความคิดเห็น:

  1. ผลงานการวิจารณ์วรรณกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น

    จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา

    ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ

    ตอบลบ