วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์วรรณกรรมพื้นบ้าน เรื่องนางผมหอม(วิเคราะห์ฉาก)


วิเคราะห์ฉาก เรื่องนางผมหอม

                กวีได้พรรณนาฉากในเรื่องนางผมหอมไว้ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง

บางฉากที่มีความสำคัญในการดำเนินเรื่อง ดังนี้         

ฉากตอนที่นางสีดาชมสวนอุทยานกับหมู่นางกำนัล

                ฉากนี้กวีได้พรรณนาเกี่ยวกับความงามของอุทยานว่าประกอบไปด้วยดอกไม้สีสันต่างๆ

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงอากัปกิริยาของนางกำนัล ที่หยอกล้อกันในหมู่สาวๆ และหยอกล้อกับหนุ่มๆ

ตัวอย่าง


หมู่ฝูง                     สาวส่ำน้อย           สงวนทีเหล้นนี่นั่น

                                สีดาน้อย                นางงามชมชื่น

                                ยัวระยาตย้าย         ไปพร้อมพร่ำมวล

                                สีแจ่มเจ้า               แพงล้านค่อยไป

                                เถิงแห่งห้อง         เขาเล่าเซาแฮง

หลิ่งเห็น               มาลาจูม                 จอจีจำก้าน

                                ฝูงสาวใช้               น้อยหนุ่มสาวฮาม

เขาก็                       เอามาลา                                ดอกงามถวายเจ้า

แต่นั้น                    สีดาเจ้า                   นางงามชื่นชม

                                เก็บดอกไม้            มาฮ้อยทัดทรง

                                หอมดอกไม้          มาลาดวงดอก

ตั้งหาก                   โหยๆหอม            ซู่ดวงมีมั่ว

ลางพ่อง                 จีจูมส้อย                ใสงามบานฮื่อ

                                หอมกลิ่นกั้ว         ดวงแก้วกลิ่นหอม

                                มีบ่ใฮ้                     สัพพะสิ่งมาลา

                                เป็นที่ควร              ม่วนกระสันดอมน้อย

แต่นั้น                    ฝูงบ่าวต้าน            จาหยอกไยสาว

                                มาลาหอม             จ่อจีเป็นเชื้อ

เมื่อนั้น                  ทั้งหลายเหล้น      ในดงชมชื่น

                                สาวส่ำน้อย           จาตอบสเนหา

อันว่า                      ดวงดอกซ้อน        ชมคู่ลำดวน                          อวนเอย

น้องจัก                   เอายอถวาย            บ่ถืกตาพระอวนอ้าย

ผิว่า                         บริสุทธิ์แท้            ซิชมเจ้าชั่วชีวัง                    นั้นแหล้ว

อันว่า                      พระที่แม้ง             ภายพู้นก็หากยัง                   อวนเอย

เมื่อนั้นชายก็        ต้านตอบถ้อย        เสียงม่วนอรชอน

                                จาเสียดสวย           หนุ่มสาวสะหาวเหล้น

โอนอท่อแต่          ตนเดียวอ้าย          นอนเดียวบ่มีคู่

เมียบ่                      มีเบียดข้าง             ทั้งชู้ก็บ่มี

ผิว่า                         พี่มีเมียซ้อน          เฮียมบ่จาคำม่วน                  เสียแหล้ว

เผือว่าหากน้อง     ผายโผดอ้าย          เห็นที่ค้ำช่วยบุญ                  แทนเสีย

อันที่                       ในมะโนจิต          คึดอยากเฝือแฝงห้อง

แต่นั้น                    หลายกันเหล้น     สรรพสิ่งนานา

                                ลางคนเขา             ค่อยจาคำน้อย

ลางคน                   จับต้องผ้า              สะใบกางกั้นผูก

                                แซวๆเสียง            บ่าวสาวชมเหล้น



ฉากตอนนางสีดาหลงป่า



                เป็นการพรรณนาฉากตอนที่นางสีดาไปชมสวนอุทยานแล้วเกิดพลัดหลงกับหมู่นางกำนัล นางเดินเข้าไปไกลจนถึงเขตป่าลึก และรู้สึกกระหายน้ำ แต่ในที่แห่งนั้นไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย เดินไปก็พบแต่สัตว์ป่า เช่น กวาง นก ชะนี ลิง เป็นต้น


ตัวอย่าง


                                บัดนี้จะกล่าวเถิง

                                นางงามนาถน้อย                 หลงป่าดงหลวง                   ก่อนแหล้ว

ก็หาก                     โฮยแฮงอิด                            จ่มหาหิวน้ำ

ขอให้                     อินทร์อยู่ฟ้า                          ปราณีข้าอีกู                           แด่ถ้อน

แต่นั้น                    อ่อยห่อยหน้า                       เลยหอกหิวทาง

                                ในดงดอน                             มืดมัวมีแจ้ง

เห็นแต่                   กวางเที่ยวเหล้น                   กินเกียงหญ้าอ่อน                พุ้นเยอ

มีแต่                        นกฮ่ำฮ้อง                              ปลายไม้ส่งเสียง

ฟังยิน                     ว่อนๆฮ้อง                             ชะนีอ่อยหาผัว                     แลเยอ

มีทั้ง                        ลิงกังเต้น                               กระโยงไปในป่า

ฝูงหมู่                     ฮอกและจ้อน                        โตนเต้นหลีกกัน



ฉากตอนนางผมหอมและนางลุนเข้าป่าไปตามหาบิดา

                เป็นการพรรณนาถึงตอนที่นางผมหอมและนางลุนเข้าป่าไปตามหาบิดา ซึ่งหมายถึงพระยาช้าง ระหว่างการเดินทางนั้นต้องทนลำบากตรากตรำ ต้องทนหนาวน้ำค้างในเวลาค่ำคืน ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ที่เต็มไปด้วยเสียงร้องระงมของสัตว์ป่า

ตัวอย่าง

                                บัดนี้จะกล่าวเถิง

                                สองศรีแก้ว                           นางงามเดินดุ่ง

พลอยเล่า               เถิงฝั่งกว้าง                           เหวห้วยพักเซา

ฟังยิน                     ทาดๆน้ำ                                ต้องตาดตีนผา                      พุ้นเยอ

                                มองอรัญญา                          โยชน์ยาวมีฮู้                        

                                เห็นหมู่สักขาไม้                  ไฮสูงต้นใหญ่                       พุ้นเยอ

จมกวย                   พัดกิ่งเนิ้ง                              กวยพร้อมพร่ำกัน

เมื่อนั้น                  แพงศรีส้อย                           สองนางฟังถี่

                                บอกแก่น้อง                          นงหล้าค่อยไป                     พี่ถ้อน

ฟังยิน                     ว่อนๆฮ้อง                             สรรพสิ่งนางหนี                 พุ้นเยอ

คือดั่ง                      เสียงพระมารดา                   แม่มานำเอิ้น

อันนี้                       อัศจรรย์แท้                            เดียระฉานสัตว์ป่า               แพงเอย

ก็หาก                     มาช่างฮ้อง                            คางอ้อยอ่านเสียง                นี้เด

เมื่อนั้น                  วันบ่ายคล้อย                         เลยค่ำอรชน

นางก็                      นอนตะแคงหลับ                 บ่ติงตนได้

                                จอมศรีส้อย                           สองนางนอนอยู่

                                ในป่าไม้                                ดงกว้างเถื่อนกวาง

                                เดิกๆล้ำ                                  เหมือยฮวยฮำหนาวหน่วง

ฟังยิน                     เป็ดป่องฮ้อง                         เย็นจ้อยจ่มหนาว

พอเมื่อ                   ดาวด่วนขึ้น                           ไกล้ฮุ่งอรชอน                     พุ้นเยอ

                                กุตโตขัน                                สามทีจวนแจ้ง


ฉากตอนพระยาช้างสั่งบริวารสร้างปราสาทให้แก่นางผมหอม



ฉากนี้กวีได้พรรณนาถึงความสามัคคีของเหล่าบริวารช้าง ซึ่งได้รับมอบหมายจากพระยาช้างให้สร้างปราสาทแก่นางผมหอม เหล่าบริวารทั้งหลายก็ช่วยกันหาไม้มาสร้างปราสาทให้เสร็จอย่างรวดเร็ว



ตัวอย่าง

เมื่อนั้น                  กุญชะโรช้าง                        พระยาหลวงตนพ่อ             นางนั้น

                                เตินป่าวให้                            กาไม้เฮ็ดโฮง

แล้วเล่า                  ปลูกแต่งตั้ง                           ผาสารทใหญ่เสาสูง

                                ตงกอนขาง                           ขื่อแปมีพร้อม

เขาก็                       เอากันสร้าง                          หอปรางค์เฮ็วฮีบ

แล้วจึง                    ยอแจ่มเจ้า                             นางน้อยอยู่นอน


ฉากตอนเจ้าชายออกตามหานางผมหอมหวังจะเอามาเป็นคู่ครอง

                หลังจากที่เจ้าชายเปิดผอบพบเส้นผมอันมีกลิ่นหอมอบอวลและสาส์นเสี่ยงทายแล้ว  ก็มีความคลั่งไคล้ต่อนางผมหอม อยากจะเอานางมาเป็นคู่ครองให้ได้ จึงไปกราบทูลลาพระราชบิดามารดา เพื่อออกติดตามหานางผมหอม ระหว่างการเดินทางในป่า กวีก็พรรณนาถึงบรรยากาศอันเยือกเย็นในยามค่ำคืน

ตัวอย่าง

บาก็                        กลายเขตบ้าน                       เซาอยู่อรัญญา

                                ฝูงทาสี                                   สั่งลาเมือบ้าน

ท้าวก็                      ทรงแผ่นผ้า                           ผืนค่าแสนคำ

ทั้งเล่า                     อู้มอูบแก้ว                             ทั้งเข้าเล่าไป

พอเห็น                  สักขาไม้                                ฮังบานเฮียงเฮื่อ

                                ในดงต้น                                ลำดั้วก่ายกัน                         พุ้นเยอ

                                บานแบ่งส้อย                        จำจีจูมจ่อ

มีทั้ง                        ทองเทดเสี้ยว                        ฝูงหมายางสูงก็มี

มีทั้ง                        ยอดก่าวเกี้ยว                         เกี้ยวก้องกอมใบ

บางที                      ลมตีต้อง                                สาขากวยแก่ง                       พุ้นเยอ

                                โฮยๆหอม                             ดอกกระยอมบานแท้

                                บาไทท้าว                              เดินดงข้ามเถื่อน

                                พระบาทเจ้า                          คนิงโอ้อ่าวหลัง

                                ศรีเสลียวสร้อย                     สายใจเจ้าพี่                           แพงเอย

เจ้าหาก                  อยู่ประเทศห้อง                    เมืองท้าวถิ่นใด                     พี่เด

พี่ก็                          คึดฮอดเจ้า                             ใจซิขาดตายคืน                    มานี้

ขอให้                     อินทร์พรมผาย                     โผดเฮียมปางนี้

เมื่อนั้น                  บาเดินข้าม                            คีรีฮาวเถื่อน

ดีแก่                        สุริยเยศคล้อย                        ควงฟ้าค่ำจวน

                                พระบาทเจ้า                          เซาฮมไทรทอง

                                พอประมาณหลับ                ฮิบยามคราวน้อย

ยามเมื่อ                  ลมตีต้อง                                ไทรทองก้องสนั่น               พุ้นเยอ

                                ซวดๆต้อง                             เย็นจ้อยจ่มหนาว

มองดู                     จันทร์เพ็ญขึ้น                       แจ้งส่องสีเขา                        พุ้นเยอ

                                มาลาหอม                             เฮื่อเฮืองหอมดี้

ฟังยิน                     ว่อนๆฮ้อง                             เปิดป่องเทองภู                     พุ้นเยอ

                                วาโยพัด                                 กิ่งสาขาไม้

                                พระบาทเจ้า                          ลุกนั่งกลางไพร

                                หนาวเย็นดี                           เบี่ยงแพรมาตุ้ม

                                พอประมาณได้                    แสงทองพ้นฮุ่ง

                                แสงทองแจ้ง                         ควงฟ้าฮุ่งจวน

                                ศรีแจ่มเจ้า                             พรากฮ่มโพชัย

บาก็                        ฮวยอาคม                              เป่าไปภายหน้า

แหล้วเล่า               กายเถื่อนกว้าง                      ฮอดท่งนาเพียง

                                ตะวันใส                                ส่องมายามเช้า    



ฉากตอนหลังจากนางผมหอมถูกนางโพงผลักตกน้ำ


                หลังจากที่นางผมหอมถูกนางโพงผลักตกน้ำ แล้วนางโพงก็จำแลงตนเป็นนางผมหอมกลับนครพร้อมกับเจ้าชายและบุตร      นางผมหอมได้รับชะตากรรมในป่า ต้องกินผลไม้และใช้ชีวิตอยู่กับฝูงลิง


ตัวอย่าง


บัดนี้                       ตนเดียวข้อย                          หลงพลอยพลัดพราก          ไปแล้ว

                                ปากบ่ได้                                ทะลอนเยื้อนอยู่ดอม           แลนอ

                                นางจ่มแล้ว                           ฮีบเลาะกลายไป

                                ดงดอนสูง                             ป่าผีสางเชื้อ                         

ฟังยิน                     ลมตีต้อง                                ภูสูงเสียงสนั่น                     พุ้นเยอ

                                นกแขกฮ้อง                          นางแก้วอยู่ฟัง

เผือว่า                     เสียงปากเจ้า                          น้อยอ่อนชาดา

                                อรชอนเสียงแปลก              คนคือเว้า

นกนี้                       มากล่าวต้าน                         จาม่านอรชอน     แลนอ

คือดั่ง                      เสียงปากอ่อนน้อย              จาต้านต่อกัน        นั้นเด

แต่นั้น                    นางคานข้าม                         คีรีฮาวป่า

ก็จึง                         เถิงด่านด้าว                           เมืองท้าวบ่ไกล

นางก็                      เอาหมู่เนื้อ                            ฝูงหมู่ลิงกัง

                                เป็นวงสา                               เพื่อนทางไปหน้า

ลางตัวได้               หมากหวดข่าพร้อม             ทั้งหมู่สาลี

บางพ่อง                                ได้หมากต้อง                        ทั้งหมากฝ่าไฟ

                                เอามาให้                                แพงส้อยค่อยกิน

                                สัตว์หากเลี้ยง                       นางนาถในไพร

                                แซวๆเสียง                            นีนันเสียงฮ้อง


ฉากตอนสีลาและชาดาหนีจากเมืองไปตามหามารดาในป่า

                เมื่อมาถึงเมืองของเจ้าชายแล้ว ชาดาก็ทนต่อการหิวนมมารดาไม่ไหว เอาแต่ร้องไห้ สีลาผู้เป็นพี่เมื่อเห็นน้องร้องไห้ก็เกิดความสงสาร จึงตัดสินใจพาน้องหนีเข้าไปในป่าเพื่อตามหามารดา ระหว่างการเดินทางนั้นต้องข้ามน้ำ ข้ามเขา กวีได้พรรณนาฉากนี้ให้ผู้อ่านเกิดภาพพจน์อย่างชัดเจน

ตัวอย่าง

สองก็                     ลักลอบลี้                                ลงจากโฮงหลวง

                                คนชาวเมือง                         ก็บ่เห็นสองเจ้า

สองก็                     พากันข้าม                             คีรีหาแม่

                                ฮอดฝั่งน้ำ                              ภายพุ้นค่อยไป

มองเห็น                                ซะพุ่มไม้                               ต้นใหญ่ใบหนา   พุ้นเยอ

                                สอนลอนเลียน                     เลียบทางสองข้าง

                                สมเสลาน้อย                         ทั้งสองเดินดุ่ง

                                เข้าป่าไม้                                เมือหน้าค่อยเดิน

                                มาเยอน้อง                            มาเอิ้นแม่มารดา

               

ฉากตอนพระราชาสั่งไพร่พลให้จัดแจงสถานที่ต่างๆรวมทั้งตกแต่งหนทางให้มีความสวยงามเพื่อต้อนรับเจ้าชายและนางผมหอม


                หลักจากเรื่องราวร้ายๆผ่านไป พระราชาจึงสั่งไพร่พลให้จัดเตรียม ตกแต่งหนทางให้มีความสวยงามโดยปลูกต้นไม้และดอกไม้ไว้ตามหนทาง เพื่อต้อนรับเจ้าชายและนางผมหอมเข้าสู่พระนคร


ตัวอย่าง


เมื่อนั้น                  ภูชัยท้าว                                องค์ราชะเลงโญ

                                ปลงอาชญ์จัด                        แต่งเตินฝูงข้า

                                ว่าให้เขาสร้าง                       ทางเพียงเฮียงฮาบ

                                ปลูกกล้วยอ้อย                      เลียนไว้ข้างหน้า

                                ต้นดอกไม้                             จัดปลูกเป็นถัน

                                เพดานมุง                              มาดทางปูไว้

อันว่า                      เตินเขาให้                             ชาวเมืองมาแห่

                                แต่งเครื่องพร้อม                  ภาช์เข้าเรียบทาง

1 ความคิดเห็น:

  1. ผลงานการวิจารณ์วรรณกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาวรรณกรรมท้องถิ่น

    จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการศึกษา

    ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยค่ะ

    ตอบลบ