วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

บทเห่ชมปลา


บทเห่ชมปลา

                        กาพย์

พิศพรรณปลาว่ายเคล้า
คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์
มัตสยายังรู้ชม
สาสมใจไม่พามา
นวลจันทร์เป็นนวลจริง
เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา
คางเบือนเบือนหน้ามา
ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย
เพียนทองงามดั่งทอง
ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย
กระแหแหห่างชาย
ดั่งสายสวาทคลาดจากสม
แก้มช้ำช้ำใครต้อง
อันแก้มน้องช้ำเพราะชม
ปลาทุกทุกข์อกกรม
เหมือนทุกข์พี่ที่จากนาง
น้ำเงินคือเงินยวง
ขาวพรายช่วงสีสำอาง
ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง
งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี**
ปลากรายว่ายเคียงคู่
เคล้ากันอยู่ดูงามดี
แต่นางห่างเหินพี่
เห็นปลาเคล้าเศร้าใจจร
หางไก่ว่ายแหวกว่าย
หางไก่คล้ายไม่มีหงอน
คิดอนงค์องค์เอวอร
ผมประบ่าอ่าเอี่ยมไร
ปลาสร้อยลอยล่องชล
ว่ายเวียนวนปนกันไป
เหมือนสร้อยทรงทรามวัย
ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย
เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ
เนื้อน้องฤๅอ่อนทั้งกาย
ใครต้องข้องจิตชาย
ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง
ปลาเสือเหลือที่ตา
เลื่อนแหลมกว่าปลาทั้งปวง
เหมือนตาสุดาดวง
ดูแหลมล้ำขำเพราคม
แมลงภู่คู่เคียงว่าย
เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม
คิดความยามเมื่อสม
สนิทเคล้าเจ้าเอวบาง
หวีเกศเพศชื่อปลา
คิดสุดาอ่าองค์นาง
หวีเกล้าเจ้าสระสาง
เส้นเกศสลวยรวยกลิ่นหอม
ชะแวงแฝงฝั่งแนบ
ชะวาดแอบแปบปนปลอม
เหมือนพี่แอบแนบถนอม
จอมสวาทนาฏบังอร
พิศดูหมู่มัจฉา
ว่ายแหวกมาในสาคร
คะนึงนุชสุดสายสมร
มาด้วยพี่จะดีใจ

กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร

อ้างอิง : เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร.กาพย์เห่เรือบทเห่ชมปลา. (๒๕๕๔). ค้นเมื่อ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๖.

 จาก http://pranpanninlive.exteen.com/page-3

จากบทประพันธ์ข้างต้น ผู้ประพันธ์มีความคิดสร้างสรรค์ในการใช้ภาษาเพื่อสร้างงานวรรณกรรม ประเภทร้อยกรอง  “กาพย์เห่เรือบทชมปลา ของ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร”  จากบทประพันธ์จะปรากฏโวหารภาพพจน์ ดังนี้

๑. โวหารอุปมา  เป็นโวหารที่เป็นการเปรียบเทียบของสองสิ่งว่าคล้ายกัน  ใช้คำเชื่อม ปาน ดั่ง  เหมือน เสมือน ดุจ ประดุจ ฯลฯ  ซึ่งปรากฏในบทประพันธ์ข้างต้น ดังนี้

เพียนทองงามดั่งทอง
ไม่เหมือนน้องห่มตาดพราย
กระแหแหห่างชาย
ดั่งสายสวาทคลาดจากสม

ข้อความดังกล่าวเป็นการอุปมา ปลาเพียนทองว่ามีความงดงามอย่างทองมากแต่ไม่งดงามเท่ากับน้องที่ห่มผ้าตาดพรายและเปรียบเทียบปลากระแห ซึ่งมีการเล่นคำว่าแหห่าง เปรียบเสมือนว่าพี่ต้องห่างจากน้อง 

ปลาสร้อยลอยล่องชล
ว่ายเวียนวนปนกันไป
เหมือนสร้อยทรงทรามวัย
ไม่เห็นเจ้าเศร้าบ่วาย ฯลฯ
ปลาเสือเหลือที่ตา
เลื่อนแหลมกว่าปลาทั้งปวง
เหมือนตาสุดาดวง
ดูแหลมล้ำขำเพราคม   ฯลฯ      

ข้อความดังกล่าวเป็นการอุปมา ปลาเสือว่ามีดวงตาที่แหลมคมเหมือกับตานางที่มองแล้วมีความคมขำสวยงาม

ชะแวงแฝงฝั่งแนบ
ชะวาดแอบแปบปนปลอม
เหมือนพี่แอบแนบถนอม
จอมสวาทนาฏบังอร  ฯลฯ

ข้อความดังกล่าวเป็นการปลาชะแวงและปลาชะวาดที่กำลังว่ายน้ำลำตัวแนบแอบชิดกันเหมือนกับตอนที่พี่นั้นได้อยู่ใกล้น้อง

๒. โวหารอุปลักษณ์ เป็นโวหารที่ใช้เปรียบเทียบของสองสิ่งว่าเป็น หรือคือสิ่งเดียวกัน คำเชื่อมที่ใช้ เป็น คือ เท่า ได้แก่   ซึ่งปรากฏในบทประพันธ์ข้างต้น ดังนี้

น้ำเงินคือเงินยวง
ขาวพรายช่วงสีสำอาง
ไม่เทียบเปรียบโฉมนาง
งามเรืองเรื่อเนื้อสองสี

ข้อความดังกล่าวเป็นการบอกว่าปลาที่มีสีน้ำเงินนั้นเป็นปลาเงินยวง

จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ลักษณะ ถ้อยคำ ใช้ถ้อยคำเกลี้ยงเกลาสละสลวย ไพเราะด้วยการสัมผัสและทำให้เกิดภาพพจน์ มีรสในวรรณคดีที่ปรากฏในบทประพันธ์ คือ

๑. เสาวรจนี เป็นรสความไพเราะเกี่ยวกับการชม ความงาม อาจเป็นความงามของปลาและนางอันเป็นที่รัก

๒.นารีปราโมทย์ เป็นรสที่แสดงความรักใคร่ หรือบทโอ้โลม

2 ความคิดเห็น: