บทความ : เรื่องก่อนจะไปเป็นครูที่ดีต้องรู้วิธีก่อนใคร
ครูในอนาคตจะต้องเป็นครูที่มีความสามารถตามตามเกณฑ์ของระดับคุณภาพครูที่เป็นสากล แต่ก็มีความขัดแย้งกันกับนักวิชาการบางฝ่ายที่เห็นว่าการมองระดับคุณภาพครูโดยพิจารณาเฉพาะความรู้ความสามารถนั้น
อาจจะขาดคุณลักษณะอันสำคัญของความเป็นครูดีที่แท้จริงได้ ในความคิดตามคติแนวคิดของคนไทยเกี่ยวกับลักษณะของครูที่ดีนั้นต้องมีคุณธรรมดังพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทาน ปริญญาบัตรแก่นักศึกษาวิทยาลัยวิชาการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ที่ว่า
อาจจะขาดคุณลักษณะอันสำคัญของความเป็นครูดีที่แท้จริงได้ ในความคิดตามคติแนวคิดของคนไทยเกี่ยวกับลักษณะของครูที่ดีนั้นต้องมีคุณธรรมดังพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทาน ปริญญาบัตรแก่นักศึกษาวิทยาลัยวิชาการศึกษาในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ที่ว่า
“......ข้าพเจ้าเชื่อว่า นิสิตนักศึกษา
ซึ่งสำเร็จการศึกษาไปในคราวนี้ควรจะได้มีคุณธรรม ศีลธรรม
และวัฒนธรรมเป็นทุนอยู่บ้างแล้ว แต่ในฐานะที่ต้องออกไปทำหน้าที่ครูของผู้อื่น ท่านจำเป็นจะต้องสร้างสมธรรมะต่างๆให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และรู้จักวางตัวให้สมกับเป็นผู้มีหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และช่วยกันขจัดปัญหาเยาวชนให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว และส่งเสริมให้เยาวชนได้เป็นคนที่มีสัมมาอาชีพและความประพฤติดี
เพื่อเป็นกำลังใจในการที่จะสร้างประเทศ ”
และวัฒนธรรมเป็นทุนอยู่บ้างแล้ว แต่ในฐานะที่ต้องออกไปทำหน้าที่ครูของผู้อื่น ท่านจำเป็นจะต้องสร้างสมธรรมะต่างๆให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และรู้จักวางตัวให้สมกับเป็นผู้มีหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และช่วยกันขจัดปัญหาเยาวชนให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว และส่งเสริมให้เยาวชนได้เป็นคนที่มีสัมมาอาชีพและความประพฤติดี
เพื่อเป็นกำลังใจในการที่จะสร้างประเทศ ”
การเป็นครูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ดังที่รองศาสตราจารย์ยนต์ ชุ่มจิต ( ๒๕๔๔ : ๒๐๘ ) ให้ความหมายว่า “ครู”
ที่แปลว่าหนัก นั้น เมื่อต้องสอนนักเรียนก็ต้องรับภาระอันหนัก กล่าวคือ ต้องหนักทั้งกายและหนักทั้งจิตใจ หนักทางกาย หมายความว่า ต้องศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ มาสอนศิษย์ให้มีความรู้ทันโลกทันเหตุการณ์ ในขณะที่สอนก็ต้องคอยตรวจสอบประเมินผลการเรียนการสอนเพื่อให้ศิษย์เกอดความเจริญงอกงามอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่กล่าวว่าหนักทั้งจิตใจด้วยนั้น หมายความว่า ผู้ที่มีวิญญาณความเป็นครูจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ในความทุกข์สุขของศิษย์อยู่ตลอดเวลา ยามใดที่ศิษย์ของตนต้องเจ็บป่วยหรือได้รับความเดือดร้อนใดๆ ผู้เป็นครูก็พลอยทุกข์ใจหนักใจด้วยอย่างนี้ เป็นต้น การเป็นครูนั้นเมื่อเรามองย้อนกลับกันแล้วเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเด็กเพราะครูคนเดียวนั้นสอนเด็กได้หลายๆคนครูนั้นจะเป็นทั้งแบบอย่าง ทั้งสิ่งต่างๆของเด็กดังที่ ดร.รัตนา ศรีเหรัญ (๒๕๔๔: ๒๒)ได้กล่าวในบทความหนังสือสู่เส้นทางวิชาชีพครูที่ว่า “ การเป็นแบบอย่างที่ดี บทบาทของครูในสองอย่างแรกจัดเป็นครูที่พูดได้ แต่ในบทบาทสุดท้ายนี้เป็นลักษณะของครูที่ไม่ต้องพูดซึ่งผู้เรียนสามารถมองเห็นได้เลย ผู้เรียนมักมีการเลียนแบบพฤติกรรมของบุคคลที่นักเรียนมีความใกล้ชิดและให้ความเคารพนับถือ จัดเป็นการเรียนรู้ที่เกิดกับผู้เรียนโดยไม่ต้องมีการสอนด้วยวาจา ถ้าผู้เรียนเกิดความประทับใจในพฤติกรรมของครูคนใด
ก็มักจะยึดถือครูผู้นั้นเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต ” จะเห็นได้ว่าบทบาทของครูนั้นมีส่วนสำคัญต่อการออกแบบ การสร้างการพัฒนาบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกของสังคมให้เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติในการดำรงสภาพความเป็นสังคมที่สมบรูณ์ต่อไป สังคมที่ขาดครู (ครูที่ดี) สังคมนั้นจะขาดการพัฒนาที่ดีและเป็นการยากที่จะเป็นการยากที่จะดำรงให้สังคมได้คงอยู่ต่อไป
ที่แปลว่าหนัก นั้น เมื่อต้องสอนนักเรียนก็ต้องรับภาระอันหนัก กล่าวคือ ต้องหนักทั้งกายและหนักทั้งจิตใจ หนักทางกาย หมายความว่า ต้องศึกษาค้นคว้าอยู่เสมอเพื่อหาความรู้ใหม่ๆ มาสอนศิษย์ให้มีความรู้ทันโลกทันเหตุการณ์ ในขณะที่สอนก็ต้องคอยตรวจสอบประเมินผลการเรียนการสอนเพื่อให้ศิษย์เกอดความเจริญงอกงามอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่กล่าวว่าหนักทั้งจิตใจด้วยนั้น หมายความว่า ผู้ที่มีวิญญาณความเป็นครูจะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ในความทุกข์สุขของศิษย์อยู่ตลอดเวลา ยามใดที่ศิษย์ของตนต้องเจ็บป่วยหรือได้รับความเดือดร้อนใดๆ ผู้เป็นครูก็พลอยทุกข์ใจหนักใจด้วยอย่างนี้ เป็นต้น การเป็นครูนั้นเมื่อเรามองย้อนกลับกันแล้วเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเด็กเพราะครูคนเดียวนั้นสอนเด็กได้หลายๆคนครูนั้นจะเป็นทั้งแบบอย่าง ทั้งสิ่งต่างๆของเด็กดังที่ ดร.รัตนา ศรีเหรัญ (๒๕๔๔: ๒๒)ได้กล่าวในบทความหนังสือสู่เส้นทางวิชาชีพครูที่ว่า “ การเป็นแบบอย่างที่ดี บทบาทของครูในสองอย่างแรกจัดเป็นครูที่พูดได้ แต่ในบทบาทสุดท้ายนี้เป็นลักษณะของครูที่ไม่ต้องพูดซึ่งผู้เรียนสามารถมองเห็นได้เลย ผู้เรียนมักมีการเลียนแบบพฤติกรรมของบุคคลที่นักเรียนมีความใกล้ชิดและให้ความเคารพนับถือ จัดเป็นการเรียนรู้ที่เกิดกับผู้เรียนโดยไม่ต้องมีการสอนด้วยวาจา ถ้าผู้เรียนเกิดความประทับใจในพฤติกรรมของครูคนใด
ก็มักจะยึดถือครูผู้นั้นเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต ” จะเห็นได้ว่าบทบาทของครูนั้นมีส่วนสำคัญต่อการออกแบบ การสร้างการพัฒนาบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกของสังคมให้เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติในการดำรงสภาพความเป็นสังคมที่สมบรูณ์ต่อไป สังคมที่ขาดครู (ครูที่ดี) สังคมนั้นจะขาดการพัฒนาที่ดีและเป็นการยากที่จะเป็นการยากที่จะดำรงให้สังคมได้คงอยู่ต่อไป
ดังนั้นผู้ที่จะไปประกอบวิชาชีพครูนี้ควรคำนึงในการจะไปปฏิบัติหน้าที่ของตนว่าจะไปเป็นครูประเภทไหนและจะเป็นครูที่ดีได้อย่างไร
บุคลิกภาพของครูก็เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของผู้เรียนและเป็นส่วนที่ช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ดังที่
ณัฐพรหม อินทยุยศ (๒๕๕๓ : ๒๙๓) ได้กล่าวไว้ดังนี้
ครูประเภทที่ ๑
ถ้าครูแสดงความเป็นมิตร นักเรียนจะอบอุ่นใจ
ถ้าครูยิ้มแย้ม นักเรียนจะแจ่มใส
ถ้าครูมีอารมณ์ขัน นักเรียนจะเรียนสนุก
ถ้าครูกระตือรือร้น นักเรียนจะกระปรี้กระเปร่า
ถ้าครูมีน้ำเสียงนุ่มนวล นักเรียนจะสุภาพอ่อนน้อม
ถ้าครูแต่งตัวเรียบร้อย นักเรียนจะเคารพ
ถ้าครูให้ความเมตตาปราณี นักเรียนจะมีจิตใจอ่อนโยน
ถ้าครูให้ความยุติธรรม นักเรียนจะศรัทธา
ครูประเภทที่
๒
ถ้าครูเข้มงวด นักเรียนจะหงุดหงิด
ถ้าครูหน้านิ่วคิ้วขมวด นักเรียนจะรู้สึกเครียด
ถ้าครูฉุนเฉียว นักเรียนจะอึดอัด
ถ้าครูปั้นปึ้ง นักเรียนจะกลัว
ถ้าครูแต่งตัวไม่เรียบร้อย นักเรียนจะขาดความเคารพ
ถ้าครูใช้น้ำเสียงดุดัน นักเรียนจะหวาดกลัว
ครูประเภทที่
๓
ถ้าครูท้อถอย นักเรียนจะท้อแท้
ถ้าครูเฉยเมย นักเรียนจะเชื่องชา
ถ้าครูเชื่องช้า นักเรียนจะหงอยเหงา
ถ้าครูใช้น้ำเสียงราบเรียบ นักเรียนจะไม่ตั้งใจฟัง
ถ้าครูปล่อยปละละเลย นักเรียนจะขาดระเบียบวินัย
ถ้าครูแต่งกายไม่เรียบร้อย นักเรียนจะขาดความเคารพ
ครูทั้ง
๓ ประเภทนี้ทำให้เห็นข้อพกพร่องของครู
เรื่องบุคลิกท่าทางของครู
ดังนั้นผู้ที่จะไปประกอบวิชาชีพครูจึงจำเป็นต้องหมั่นสร้างแรงจูงใจในการเรียนการสอนของตนเองอย่างต่อเนื่องและต้องนำเอาสิ่งดีไปเป็นแบบอย่างในการกระตือรือร้นในการเรียนการสอนต่อไป ซึ่งเราก็สามารถนำไปพัฒนาได้ตลอดอย่างที่
ดร.สุรศักดิ์ หลาบมาลา (๒๕๔๑ : ๘๗ )
ได้กล่าวไว้ว่า “ การพัฒนาครูนั้นไม่ได้เริ่มต้นเมื่อเข้าเรียนในสถาบันฝึกหัดครูและจบลงเมื่อรับปริญญาบัตร แต่ครูโดยวิชาชีพต้องเรียนรู้และเติบโตในวิชาชีพของตนตลอดชีวิตความเป็นครู
”
นางสาวดวงเดือน คำบุญเกิด
รหัสนัหศึกษา ๕๔๓๔๑๐๐๑๐๑๑๕
สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์
ชั้นปีมี่ ๓ หมู่รียนที่ ๑